เชียงใหม่ ปลายฝน รวมพล ปล่อยพลัง (ตอนจบ)
กรกฎาคม 14, 2009 เวลา 11:47 pm | เขียนใน Outing ... | 4 ความเห็นเช้าวันที่ 3 ก่อนเริ่มโปรแกรมไฮไลท์ เราต่างพร้อมใจออกมาทำบุญ ณ วัดพันแหวน หน้าบ้านฯ
ทำบุญ ทำได้หลายวิธี จะตักบาตร หรือจะสร้างโบสถ์ ได้บุญทั้งนั้น แต่ถ้าจะให้ดี ก็ตั้งหลักไว้ก่อนสิ “ทำบุญด้วยปัญญา และเพื่อปัญญา” – เจ้าอาวาส ท่านเทศน์ไว้อย่างนั้น
ได้บุญหน้าใส เสร็จสรรพ ก็ก้าวขึ้นรถ ขับออกนอกเมืองไป สักหนึ่งอึดใจแม้ว! จุดหมาย หมู่บ้านอนุรักษ์ยอดเยี่ยม แม่กำปอง อันเป็นที่ตั้งของ Home stay น่าอยู่ และ กิจกรรม Flight of the Gibbon แปลเป็นไทยว่า “ชะนีร่อน” – โอ้ พระเจ้ายอด มันจ๊อดมาก !
เมืองขยายเท่าไหร่ ป่าก็ถูกทำลายเท่านั้น – รัฐไทย ไล่คนออกจากป่า พอป่าไม่มีคน โจรก็เลยปล้นป่า ยิ่งไล่ล่า ไม้ในป่ายิ่งหดหาย ไม่รู้นโยบายอะไร ขอถอนใจสัก 18 ครั้ง ~~~
ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ คงเบื่อคำว่า “อนุรักษ์” เลยตั้งโจทย์ใหม่ “จะทำอย่างไรให้คนรักป่า” เขาคิดจัดกิจกรรมเข้าไปไว้ในนั้น ทั้งเดินป่า นอนป่า และห้อยโหนตัวไปตามยอดไม้
ถ้ามีคนถามว่า “ทำไมยูไม่ปลูกป่าเหมือนประเทศไอ!” เขาจะตอบนิ่มๆ ว่า ปลูกป่าเป็นกฎหมาย “ตัดได้เท่าที่ปลูกเอง และตัดเท่าไหร่ ให้ปลูกเท่านั้น” มาตรการเดียวจบ ป่าไม้เขียว นักการเมืองไม่เกี่ยว … เออ … ไม่ต้องรณรงค์
การได้ห้อยโหนตัวไปมา จากยอดไม้สู่ยอดไม้ คือ หนึ่งใน วิชาชะนี! นักท่องป่าสายพันธุ์ออสซี่ เปิดโอกาสให้คนดีๆ กลายเป็นชะนีได้ โดยส่งทีมงานชุดใหญ่มา Set up อุปกรณ์ รวมถึงการฝึกสอน staff ให้เป็นมืออาชีพ
“อุปกรณ์ต่างๆ มีความปลอดภัย ไม่ต้องห่วงนะครับ ที่นี่เรามีวัดอยู่ใกล้ๆ … รับรองว่า ไม่ตาย ถ้าไม่ตก” Staff ล้อเล่น แต่เราขาอ่อน
อุปกรณ์สำคัญ 2 ชิ้นได้แก่ ฮาร์เนส (Harness) หรือ สายรัดสะโพก ที่เราใช้เป็นแบบเต็มตัว โดยจะถูกโยงไว้ด้วยสายไนล่อนสำหรับปีนเขา แต่ละเส้นแต่ละสาย รองรับน้ำหนักได้ ถึง 2 ตัน !
“ใครหนักกว่านั้น ไปรอเจอกันข้างล่างโน่น ครับ” Staff โยนมาอีกให้หนึ่งมุข !
หนึ่งในหลายสายไนล่อน มีสายหนึ่งจะขอเน้น เพราะถือเป็นเรื่องอยู่หรือไป นั่นคือ “สาย Safety” สายนี้จะมีก็แต่ Staff เท่านั้น ที่จะปลดคาราไบเนอร์ (Carabiner) หรือห่วงคล้องได้
ทันทีที่ Staff เกี่ยว Harness ของเรา เข้ากับพูเล่ย์ (รางรอกคู่) แล้วปลดสาย safety ไปเกี่ยวกับสายสลิง ถ้าไม่เคย จะไม่รู้จริงๆ ว่าเสียวไส้ขนาดไหน เที่ยวบินแรก จึงมักทำให้ใครๆ ต้องหลับตาปี๋
มารู้สึกตัวอีกที พูเล่ย์ ก็พาเราลอยมาถึงอีกหนึ่ง Platform สิ่งที่ staff ซักซ้อมแต่ไม่มีใครจำได้ คือให้ “ยกขา” และ หากเหินเร็วเกินไป สามารถใช้ “ไม้เบรก” (ไม้ไผ่) ก็เป็นอะไรที่ลืมหมดสิ้น คงเพราะตกใจ – ใจตกไปตอนไหน ไม่รู้
ตลอด 2 ชั่วโมงเศษ เราเหินไปตามยอดไม้เกือบ 10 ยอด มีทั้งแบบโหน แบบห้อย แบบร้อย-โรยตัวลงมา อ้อ แล้วก็มีแบบก้าวข้ามสะพานไม้ อีกต่างหาก
อยากจะบอกว่า แค่ผ่านไปไม่กี่ฐาน ทุกคนก็ห้อยโหนด้วยความเบิกบาน สำราญ แอนด์ เมามัน กับกิจกรรมนี้ สังเกตได้ง่ายๆ จาก ท่าทาง-กางแขน กางขา และไม่รู้ว่า ทำม๊ายยย … ต้องอ้าปาก !
Platform สุดท้าย มีคนถาม Staff ว่า “เคยมีใครไหลไปค้างอยู่กลางสายสลิงหรือเปล่า?”
พอ Staff บอกว่ามี เราถามต่อทันทีว่า “แล้วทำไง”
“ก็ส่งคนลงไปถีบ – ล้อเล่ง” Staff ทำเอาฮาอีกตามเคย
“ก็ส่ง Staff ลงไปพร้อมสายไนล่อน ปลายข้างหนึ่งให้คนบน Platform ถือเอาไว้ เมื่อลงไป เอาขาไขว้หนีบตัว แล้วให้เพื่อนลากกลับ platform” Staff เฉลย – อ๋อ !
…
ว้า ! ต้องกลับล่ะ เที่ยวบินของพวกเราเที่ยว 5 โมง แต่เผอิญมีตัวช่วย เพราะเรารวย เอ้ยไม่ใช่ เพราะบ้านฯ อยู่ใกล้สนามบินไม่ถึง 10 นาที เลยยังพอมีเวลากลับมาอาบน้ำท่า แล้วค่อยจำลาไป check-in
ก่อนจากกัน อยากบอกว่า การได้กลับมารวมตัวกัน ในวัย“ลูกกำลังโต” ครั้งนี้ มีความประทับใจหลายเรื่อง ทั้งที่ตอนแรกคาดว่า คงยากจะเอาอกเอาใจ ด้วยวัยและด้วยเงื่อนเวลา
แต่เอาเข้าจริง นอกจากจะได้โอกาสนั่งคุยกันชิลล์ๆ นิ่งๆ ยังวิ่งไปนั่นโน่นนี่ แถมยังแปลงร่างเป็นชะนีด้วยกันอีกต่างหาก แม้จำนวนคนจะมากและหลากหลาย แต่สิ่งที่ทำให้เกาะเกี่ยวไปด้วยกันได้ คือ Spirit แบบ Satit ที่ยังเหมือนเดิม
“ถ้าเข็มนาฬิกาของพวกเราหมุนตรงกันอีกสักครั้ง นัดปล่อยพลังกันอีก – ดีไหม?”
ไปละ แล้วเจอกันเมื่อ “ซาด” ต้องการ
สวัสดี
: )
สร้างเว็บไซต์หรือบล็อกฟรีที่ WordPress.com.
Entries และ ข้อคิดเห็น feeds.